moisturizer คืออะไร เลือกยังไงให้เหมาะกับผิว?
moisturizer หรือ มอยส์เจอไรเซอร์ คืออะไร? ต้องบอกว่านี่เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เรามักได้ยินกันบ่อยๆ แต่หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้ว่ามอยเจอร์ไรเซอร์คืออะไร สำคัญแค่ไหน และควรเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ชนิดไหนให้เหมาะกับผิวคุณ?
วันนี้ whatisedit.com จะมาอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสำคัญของมอยเจอร์ไรเซอร์ ว่ากันว่าช่วยบำรุงผิว บำรุงยังไงบ้าง? และควรใช้แบบไหนให้ถูกต้อง? รวมถึงวิธีการเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ให้เหมาะสมกับสภาพผิวแต่ละประเภท
Moistu rizer (มอยส์เจอไรเซอร์) คืออะไร ?
Moi sturizer หรือ มอยส์เจอไรเซอร์ คือ สกินแคร์ที่เพิ่มความชุ่มชื้น เติมน้ำหรือน้ำมันให้ผิว กักเก็บความชุ่มชื้นเอาไว้ รวมถึงช่วยลดอาการแห้ง ลอก ผิวเป็นขุย จากการที่ผิวขาดน้ำ เมื่อใช้เป็นประจำจะช่วยให้ผิวเนียนนุ่มอิ่มน้ำมากขึ้น รวมถึงช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยได้ด้วยนะ!
Moisturizer (มอยส์เจอไรเซอร์) มีกี่ประเภท ?
Moi stu rizer (มอยส์เจอไรเซอร์) นั้นหลัก ๆ มี 2 ประเภท ได้แก่
1. Oil-based moist urizer หรือ มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบหลัก เหมาะกับผิวที่ต้องการความชุ่มชื้นอย่างมาก เช่น คนผิวแห้ง – ผิวแห้งมาก คนที่อยู่ห้องแอร์เย็นจัดเป็นเวลานาน หรือผิวบริเวณหัวเข่า ตาตุ่ม ข้อศอก ที่มักแห้งและแข็งกว่าผิวบริเวณอื่น ๆ
2. Water-based moisturizer หรือ มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก เหมาะกับชาวผิวธรรมดา – ผิวมัน ที่ผิวขาดน้ำ และต้องการเติมความชุ่มชื้น แต่ไม่เพิ่มความมัน เพราะผิวผลิตน้ำมันออกมาเพียงพอแล้ว หากใช้ Oil-based moisturizer จะยิ่งรบกวนผิวและทำให้อุดตันได้
มอยส์เจอไรเซอร์ 2 ประเภทหลักนี้ ก็แตกตัวออกไปเป็นเนื้อสัมผัสที่แตกต่างได้อีก ทั้งมอยส์เจอไรเซอร์เนื้อครีม เนื้อบาล์ม เนื้อเจล เนื้อโลชั่น และขี้ผึ้ง ถ้าถามว่าแต่ละคนควรจะใช้มอยส์เจอไรเซอร์แบบไหน ก็ต้องตอบว่าควรเลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิว สภาพอากาศ และก็ขึ้นอยู่กับความชุ่มชื้นที่ผู้ใช้ต้องการด้วย
แนะนำ Moisturizer ที่เหมาะกับผิวแต่ละประเภท
ผิวธรรมดาคือผิวที่ทุกคนใฝ่ฝัน มีปัญหาผิวเพียงเล็กน้อย ความมันและความชุ่มชื้นอยู่ในระดับที่เหมาะสม รูขุมขนไม่ใหญ่จนเกินไป ให้คุณใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวประเภทใดก็ได้ ดังนั้น คุณสามารถใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ได้เกือบทุกชนิด แต่คุณยังคงต้องเลือกอย่างระมัดระวังและใส่ใจเสมอว่าผิวหน้าของคุณปรับให้เข้ากับเนื้อการรักษาประเภทใดหรือไม่ ไม่ว่าคุณจะใช้อะไรก็ตาม ให้ตรวจสอบส่วนผสมก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าผิวของคุณจะไม่ถูกทำลายอย่างรุนแรง คุณจะมีผิวสวยได้ยาวนาน
♥ แนะนำมอยเจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะกับผิวธรรมดา เช่น Cetaphil Moisturizing Cream เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว เนื้อครีมเป็นครีม ไม่เหนียวเหนอะหนะ แม้ผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ ปราศจากสารระคายเคือง ใครใช้ปรึกษาได้เลย
ปริมาณ: 100 g. ราคา 290 บาท
ผิวแห้งคือผิวที่สูญเสียความชุ่มชื้นไป หรือขาดน้ำในผิว ทำให้ผิวหมองคล้ำ ขาดความยืดหยุ่น ลอกเป็นขุย แห้ง ลอก และทำให้เกิดริ้วรอยได้เร็วกว่าผิวประเภทอื่น ดังนั้นคุณจึงต้องเติมความชุ่มชื้นด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ค่อนข้างข้น เช่น มอยเจอร์ไรเซอร์ โลชั่น หรือบาล์ม/แว็กซ์ งาน
♥ แนะนำมอยเจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะกับผิวแห้ง คุณควรใช้ Facelabs Shea Butter Oil-Free Mo i sturizer สำหรับผิวแห้งซึ่งเป็นครีมเข้มข้น แต่ก็ไม่ได้หนักอะไร ช่วยล็อคความชุ่มชื้นยาวนานด้วยสารสกัดจากเชียบัตเตอร์ หลังจากใช้แล้ว ใบหน้าของคุณจะรู้สึกนุ่มและอ่อนนุ่มโดยไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะเป็นพิเศษ เนื่องจากไม่มีส่วนผสมที่มีความมัน
ปริมาณ: 50 ml. ราคา 850 บาท
ผิวมันคือผิวที่ก่อให้เกิดความมันส่วนเกิน นี่อาจเป็นพันธุกรรมหรืออาจเป็นเพราะผิวหนังขาดน้ำและหลั่งน้ำมันเพื่อให้ความชุ่มชื้น แต่ที่เห็นได้ชัดคือคนที่มีผิวมันจะมีรูขุมขนกว้างกว่าเพื่อนและอาจอุดตันได้ง่าย ด้วยเหตุนี้จึงต้องใช้เจลทรีตเมนต์ที่บางเบา ซึมซาบง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ และไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
♥ มอยเจอร์ไรเซอร์แนะนำที่เหมาะกับผิวมัน ควรใช้ Srihand Skin Moisture Burst Gel Cream ซึ่งเป็นเจลครีมที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น แต่ไม่อุดตันผิว ใช้แล้วหน้าจะนุ่มไม่มันเยิ้ม
ปริมาณ: 50 ml. ราคา 850 บาท
ผิวผสมคือผิวที่มีทั้งมันและแห้ง ซึ่งขอบอกเลยว่าต้องใช้ทุนเปล่าสักหน่อย เพราะในบริเวณที่มีมัน เช่น ทีโซน หน้าผาก จมูก และคาง คุณจึงจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมัน และบริเวณที่แห้ง เช่น แก้ม คุณควรใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสำหรับผิวแห้ง เพื่อบำรุงอย่างเหมาะสม หรือเลือกใช้โลชั่นทรีทเมนท์ที่ใช้ได้ทั้งผิวแห้งและผิวมัน
♥ ฉันขอแนะนำมอยเจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะกับผิวผสม คุณต้องลองใช้มอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อบางเบาอย่างซิมเพิล นี่คือโลชั่นให้ความชุ่มชื้นแบบบางเบาแต่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้ดี รีวิวของคนผิวผสมระบุว่าซึมซาบเร็ว อ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้และไม่อุดตันรูขุมขน ไปหามาดูกันดีกว่า!
ปริมาณ: 50 ml. ราคา 850 บาท
ผิวแพ้ง่ายหรือสภาพผิวที่ไวต่อการระคายเคืองมาก มักเกิดอาการแดง เป็นสิว และอักเสบได้เร็วกว่าผิวประเภทอื่นๆ มลภาวะ แสงแดด และอากาศก็ส่งผลต่อปัญหาผิวได้เช่นกัน คุณจึงต้องเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงและอ่อนโยน หลีกเลี่ยงสารที่ทำให้เกิดการระคายเคือง รวมทั้งเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง เนื้อสัมผัสควรบางเบาเหมือนโลชั่นหรือเจลที่ซึมซาบเร็วและไม่อุดตันหรือระคายเคืองผิว
♥ แนะนำมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะกับผิวแพ้ง่าย เช่น BIODERMA Sensibio Defensive ซึ่งเป็นครีมฟื้นฟูและบำรุงที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับผิวแพ้ง่าย ตัวนี้เป็นครีมกึ่งเจล บำรุงอย่างล้ำลึกและไม่ระคายเคืองผิว
ปริมาณ: 40 ml. ราคา 940 บาท
Moisturizer ควรทาตอนไหนดี ?
โดยปกติแล้วควรทามอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizing) หลังล้างหน้าเช้าและเย็นโดยไม่ต้องทำให้หน้าแห้งสนิทเพียงซับให้หมาดแล้วเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์เพื่อปรับสภาพผิว ทาเซรั่มหรือน้ำเพื่อเตรียมผิวรับการบำรุง จากนั้นทามอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อบำรุงและกักเก็บความชุ่มชื้นในผิวตลอดทั้งวัน
และมันก็เสร็จแล้ว กับเรื่องราวของมอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturi zer) บอกเลยว่าถ้าเลือกผิดชีวิตคุณก็จะเปลี่ยนไป จากหน้านุ่มเป็นหน้ามันเนื่องจากขาดความเข้าใจในการเลือก “มอยเจอร์ไรเซอร์” สามารถปรับให้เข้ากับสภาพผิวของคุณได้ ดังนั้นก่อนจะเลือกใช้อะไรควรศึกษาและทำความเข้าใจเสียก่อน หรือคุณสามารถเข้ามาอ่าน *บทความ/รีวิว Cosmenet ก่อนตัดสินใจซื้อได้~